สาว ๆ ควรรู้ อยากหน้าใส ต้องไม่จบแค่โฟมล้างหน้าและคลีนซิ่ง

            วิธีการชำระล้างเครื่องสำอางและมลภาวะบนใบหน้าจำเป็นต้องใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าให้เกลี้ยงก่อนเป็นลำดับแรก แล้วค่อยล้างด้วยโฟมล้างหน้าและน้ำเปล่า เพื่อความสะอาดแบบล้ำลึก ปราศจากสิ่งสกปรกตกค้าง แต่ถ้าอยากให้หน้าใสแบบยั่งยืนจริง ๆ ล่ะก็ สาว ๆ ควรรู้ไว้ว่าการใช้แค่โฟมล้างหน้ากับคลีนซิ่งอาจไม่เพียงพอ

ทำไมจบแค่โฟมและคลีนซิ่งไม่ได้

            ไม่ปฏิเสธว่า “ความสะอาด” เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนเราหน้าใส ไกลสิว ไกลริ้วรอย แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากที่จำเป็นต้องทำให้ดีควบคู่กันไป ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือคุณสมบัติของโฟมและคลีนซิ่ง แต่มีอยู่ในเอสเซ้นส์ (Essence) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าน้ำตบ ที่ต้องใช้ก่อนทาสกินแคร์รูทีน นี่จึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่าทำไมจบแค่สองอย่างแรกไม่ได้

เอสเซ้นส์ vs คลีนซิ่งและโฟม

            อย่างที่บอกไปแล้วว่าเอสเซ้นส์มีบางอย่างที่คลีนซิ่งและโฟมให้ไม่ได้ เช่น ความแข็งแรงของใบหน้า เติมความชุ่มชื้น ปรนนิบัตรผิว เตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างล้ำลึก แต่ในขณะเดียวกันเอสเซ้นส์เองก็ไม่มีคุณสมบัติในการล้างสิ่งสกปรกและทำความสะอาดผิว ดังนั้นจึงควรใช้ทั้ง 3 อย่างควบคู่กันไปถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เอสเซ้นส์ยอดฮิตจากคลาแรงส์

            ในบรรดาเอสเซ้นส์ที่วางขายในท้องตลาด แบรนด์ที่สาว ๆ ให้ความเชื่อมั่นมานานหลายสิบปี คือ คลาแรงส์ (Clarins) จากประเทศฝรั่งเศส ที่ขึ้นชื่อเรื่องแบรนด์แห่งนวัตกรรมความงามเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งคลาแรงส์เองมีเอสเซ้นส์อยู่หลายสูตร แต่สูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ Nutri-Lumière Treatment Essence All Skin Types ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับทุกสภาพผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรนนิบัติผิวหน้าให้มีชีวิตชีวา งดงามสมวัย และเตรียมพร้อมผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างล้ำลึกในลำดับต่อไป ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ Horse Chestnut, Hibiscus, Oat, Leaf of Life และ Ginseng

โดยมาในรูปแบบของโลชั่นเนื้อสัมผัสเข้มข้นแต่อ่อนโยน เหมาะอย่างยิ่งที่จะทาบริเวณใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกเช้าและกลางคืน หลังขจัดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งและทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว

ใช้คลีนซิ่ง โฟม และเอสเซ้นส์อย่างไรให้ได้ผล

1. คลีนซิ่ง
2. เทคลีนซิ่งลงบนสำลีชุ่ม
3. ใช้สำลีนั้นเช็ดเครื่องสำอางบนหน้าและละคอเบา ๆ ระวังอย่าถูแรงเกินไป เพราะหน้าอาจระคายเคืองได้ (คลีนซิ่งที่ดี แม้ถูเพียงเบา ๆ ก็ต้องล้างเครื่องสำอางได้หมดจด)
4. เช็ดเครื่องสำอางและเปลี่ยนสำลีไปเรื่อย ๆ จนกว่าหน้าจะสะอาด หรือจนกว่าสำลีแผ่นสุดท้ายจะเกลี้ยง ไม่มีคราบเครื่องสำอางหรือฝุ่นติดออกมาแล้ว
5. โฟมล้างหน้า
6. ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ
7. บีบโฟมล้างหน้าลงบนมือ ผสมน้ำเล็กน้อย แล้วชโลมให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
8. นวดและถูวนเบา ๆ ระวังอย่าหนักมือเกินไป โดยเฉพาะกับโฟมที่ผสมเม็ดสครับ เพราะอาจทำให้หน้าอักเสบได้
9. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำสะอาด และซับหน้าด้วยผ้าขนหนูให้แห้ง
10. เอสเซ้นส์
11. หยดเอสเซ้นท์ 2 – 3 หยดลงในฝ่ามือ แล้ววอร์มด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง
12. ตบเบา ๆ เพื่อให้เอสเซ้นส์ซึมลงสู่ผิว โดยเริ่มจากบริเวณกึ่งกลางของใบหน้า แล้วค่อยขยับออกสู่ด้านข้าง เริ่มจากจมูกไปถึงใบหู หน้าผาก คาง และลำคอตามลำดับ

การจะทำให้หน้าใส ไร้สิว หรือริ้วรอยใด ๆ นั้น จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยหลายอย่าง เราจึงอยากเน้นย้ำให้สาว ๆ พยายามใช้สกินแคร์แต่ละประเภทให้ครบถ้วน เพราะความสวยใสไม่ใช่เรื่องอยาก แค่ต้องใส่ใจกับทุกขั้นตอนมากสักหน่อย